ธุรกิจทันตกรรมเริ่มฟื้นรับลูกค้าทั้งไทย-ต่างชาติกลับมาใช้บริการ

ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เดนทัลคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ของบริษัทรวมบริษัทย่อยไตรมาส 2 ปี 65 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 65 ว่า มีกำไรสุทธิ 15.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 237% เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุน 11.2 ล้านบาท และมีรายได้รวม 187.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% จากงวดเดียวกับของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 120.5 ล้านบาท

โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากการให้บริการทันตกรรม 129.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.2 ล้านบาทหรือ 111% ซึ่งแบ่งเป็นรายได้จากลูกค้าคนไทย 71.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63% และรายได้จากลูกค้าต่างชาติ 56.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 222% เป็นผลจากการกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ที่มีการเดินทางท่องเที่ยวจากต่างชาติภายใต้มาตรการ Test&Go ส่วนลูกค้าคนไทยคลายความกังวล หลังจากประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ลูกค้าจึงกลับเข้ามาใช้บริการทันตกรรมอย่างต่อเนื่อง  ส่วนรายได้จากการขายมีจำนวน 58.2 ล้านบาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

“งานบริการด้านทันตกรรมในไตรมาส 2 ปีนี้ รายได้เพิ่มขึ้น เพราะทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยในประเทศที่คลายความกังวล หลังจากคนในประเทศส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม พร้อมเข็มกระตุ้น และในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ที่ได้มีการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภายใต้มาตรการเทสต์ แอนด์ โก รวมถึงในกลุ่มของบริษัททั้งหมด ได้เปิดให้บริการตามปกติครบทุกสาขา และทุกสาขายังคงมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้ามาใช้บริการ ในไตรมาส 2 ปีนี้ ลูกค้ามีจำนวน visit volume ถึง 19,000 ครั้ง โต 100% จากไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ที่มีแค่ 10,000 ครั้ง ปีนี้รายได้น่าจะโตตามเป้าหมาย 25%” ทพ.พรศักดิ์ กล่าวคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ทพ.พรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลทันตกรรม กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล (BIDH) ไตรมาส 2/2565 สร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัท เป็นจำนวน 25 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 108% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2564 ที่มีรายได้ 12 ล้านบาท และในไตรมาส 2 ปีนี้ มีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติ 55% โดย BIDH ยังคงเน้นกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีรายได้สูง ผู้บริหารชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง

นอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 9.1 ล้านบาท กำหนดจ่ายปันผลภายในเดือนกันยายน 2565 ซึ่งผลประกอบการของกลุ่ม D ฟื้นตัวอย่างชัดเจน จนสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมด และในปีนี้เรามั่นใจว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตตามเป้าหมาย” ทพ.พรศักดิ์ กล่าว